Movie Review : Pacific Rim (2013)



ถ้าอ่านกันแค่เรื่องย่อกับดูตัวอย่างหนัง ส่วนใหญ่ต้องเข้าใจกันหมดเลยไปว่า  Pacific Rim คงไม่ต่างอะไรกันกับหนังหุ่นยนต์ต่อยกันกับสัตว์ประหลาดทั่วๆไป ที่เน้นขายฉากแอคชั่นไซไฟและซีจีจัดๆ เอาใจคอหนังประเภทนี้

แต่พอสับตีนเข้าไปดูกลับพบว่า  Pacific Rim มีอะไรมากกว่านั้น เผลอๆนี้ไม่ใช่งานแอคชั่นจ๋า แต่มันคืองานดราม่าหลักๆ ที่มีเมนูเสริม เป็นงานแอคชั่นไซไฟพอปรุงรสไม่ให้คอพวกบ้าพลังเสียใจ

สิ่งที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ การเน้นเล่าเรื่องการเชื่อมต่อสะพานกระแสจิตของคนบังคับหุ่นทั้งสอง ประหนึ่งเสมือนเป็นคนคนเดียว ที่สามารถรับรู้ถึงเรื่องราวของกันและกันในอดีตได้ และดูเหมือนว่าตัวละครหลักทั้งหลาย ล้วนแต่ผ่านความเจ็บปวดในอดีต มีบาดแผลความหลังฝังใจ กับกองทัพสัตว์ประหลาดในนามของ “ไคจู” อยู่พอสมควร

สำหรับคอแอคชั่นที่หวังจะเห็นหุ่นซัดกันกับสัตว์ประหลาดกันแบบบ้านถล่มตึกทลาย อาจจะไม่หนำใจซักนิด ซึ่งก็อย่างที่บอกนั้นแหละ งานนี้เขาเน้นเรื่องการเชื่อมต่อกระแสจิต ฉะนั้นการจะให้ขนอาวุธมายิงสัตว์ประหลาดกันแล้วจบไปดื้อๆ ไม่มีทางแน่นอน อีกทั้งอาวุธหลายอย่างๆก็ทำลายพวกมันลำบาก ซ้ำยังพวกเป็นสัตว์ประหลาดที่มีวิวัฒนาการปรับเปลี่ยนพันธุกรรมให้ต่อต่านอาวุธได้ แถมมีชั้นเชิงในการรับมือกับหุ่นยนต์รบ (เจเกอร์) อย่างหลากหลาย ซึ่งตรงนี้ถือเป็นความสนุกอีกอย่างของหนัง ที่ทำให้คนดูลุ้นอยู่ตลอดเวลา เพราะว่าเจเกอร์ไม่ได้เปรียบไคจูแม้แต่น้อย เรียกว่าเป็นรองมาตลอดเลยล่ะ

ในส่วนของงานโปรดักชั่น ภาพออกมาดูสวยสมจริง มีสีสัน ดูไม่หม่น เพราะได้เรื่องแสงสีอันหลากหลายจากดวงไฟในเมืองฮ่องกงตอนกลางคืนเป็นฉาก รวมทั้งจากตัวหุ่นยนต์ที่ก็ทำให้ตัวมันเองดูเด่นขึ้น

Pacific Rim ดูสนุกเกินกว่าที่คาดไว้ และน่าจะเป็นหนังในดวงใจประจำปีของใครหลายๆคนได้ไม่ยาก เพราะหลายๆอย่างดูลงตัวไปหมด ซึ่งถ้าเทียบกันกับหนังในตระกูลเดียวกันและพิกัดใกล้เคียงอย่าง Transformers จะเห็นได้ว่ามีดีกว่ามากโขในเรื่องของบทหนัง แม้หลายอย่างๆจะมีกลิ่นอายหุ่นยนต์ของความเป็นญี่ปุ่นอยู่เยอะก็ตาม

คะแนน 7/10

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ขนมเด็กโบราณในความทรงจำ

Movie Review : อวสานโลกสวย (2016)

Movie Review : Jeepers Creepers (2001)