Movie Review : Finding Vivian Maier (2013)
Finding
Vivian Maier : คลี่ปริศนาภาพถ่ายวิเวียน ไมเออร์ ภาพยนตร์เชิงสารคดีว่าด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับ
วิเวียน ไมเออร์ “ช่างภาพสตรีทผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ได้รับการค้นพบในศตวรรษที่
21″ ที่ถูกชายหนุ่มชื่อ จอห์น มาลูฟ ไปค้นพบในปี 2007
จากการที่เขาประมูลกล่องฟิล์มเนกาทีฟมาได้หนึ่งกล่อง เพื่อเอามาใช้ประกอบหนังสือประวัติศาสตร์ที่เขากำลังเขียนอยู่
แต่ปรากฏว่าไม่เจอภาพที่ต้องการ กลับเจอแต่รูปภาพจำนวนมหาศาลจากช่วงยุคทศวรรษ 50 ที่ผู้หญิงคนหนึ่งถ่ายทิ้งเอาไว้ ซึ่งผู้หญิงคนนั้นเธอชื่อ “วิเวียน
ไมเออร์“ และให้หลังจากนั้นหนังก็สับเกียร์พาคนดูเดินหน้าไปพร้อมๆ กับจอห์น มาลูฟ
ว่า วิเวียน ไมเออร์ เธอคือใคร ผ่านผู้ให้สัมภาษณ์ที่รู้จักเธอ เอามาร้อยเรียงปะติดปะต่อเป็นภาพรวมตลอดเวลาที่เธอยังมีชีวิต
ความน่าสนใจของหนังอยู่ที่การตามจอน
มาลูฟ ไปสืบหาทำความรู้จักหลายๆ เรื่องเกี่ยวกับ วิเวียน ไมเออร์ ซึ่งพอยิ่งสอบถาม
ตามหาข้อมูลต่างๆ ไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งทำให้เห็นว่าชีวิตของ วิเวียน ไมเออร์ เป็นอะไรที่น่าสนใจ
พอๆ กับเรื่องภาพถ่ายของเธอที่เก็บเอาไว้ใส่กล่องเป็นอย่างดี พร้อมล็อคกุญแจแน่นหนาเป็นแสนๆ
ม้วน
เราอาจจะเคยได้ยิน
ได้รับรู้ว่าศิลปินบางคนมีรูปแบบการใช้ชีวิต ที่ค่อนข้างจะแตกต่าง และแปลกแยกจากคนอื่นทั่วไปอยู่บ่อยๆ
ซึ่งหนึ่งในนั้นก็น่าจะรวม วิเวียน ไมเออร์ เข้าไปด้วย
แต่เธออาจจะแปลกคูณสองเท่าตรงที่สิ่งที่เธอทำมันค่อนข้างที่จะขัดแย้งกับการใช้ชีวิตตัวเองอยู่พอสมควร
สิ่งที่ทำเป็นประจำแทบทุกวัน
คือการสะพายกล้อง Rolleiflex (กล้องทรงสี่เหลี่ยมแนวตั้งกะทัดรัดเลนส์คู่
ที่นิยมกันในยุคทศวรรษ 30 ใช้ฟิล์มขนาด 120 ซึ่งใหญ่กว่าขนาด 35 มม.เป็นกล้องที่ช่างภาพหนังสือพิมพ์ใช้กัน)
ออกไปถ่ายภาพตามๆ ตามท้องถนนในเมือง ซึ่งนอกจากภาพถ่ายแล้ว เธอยังมีม้วนวิดีโอที่บันทึกบางเหตุการณ์
เทปบันทึกเสียงที่เอาไว้อัด เวลาออกไปข้างนอกบ้าน ตอนเธอถามถึงทรรศนะต่างๆ ของผู้คนเกี่ยวกับเรื่องการเมือง
เศรษฐกิจ เรื่องที่กำลังเป็นข่าว ไหนจะหนังสือพิมพ์หลายกองสูงเท่าหัวที่เธออ่านแล้วเก็บไว้เป็นปึกๆ
จนในห้องนอนตัวเองแทบจะไม่มีทางเดิน ซึ่งเมื่อมองดูถึงสิ่งต่างๆ ที่เธอทำจะเห็นว่า
วิเวียน ไมเออร์ มียีนส์ของการเป็นอาชีพสื่อมวลชนอย่างเต็มเปี่ยม (ขนาดข่าวใน
นสพ.ที่เธออ่านเจอ แล้วมีคดีอาชญากรรมเกี่ยวกับสตรี เธอก็ตามไปถ่ายถึงที่เกิดเหตุ
ราวกับว่าตัวเองเป็นนักข่าว เพื่อสืบหาข้อมูลข้อเท็จจริง)
แต่สำหรับการใช้ชีวิตของเธอ
วิเวียน ไมเออร์ เป็นคนที่แปลกแยกจากสิ่งที่ทำ เธอเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง หลายๆ อย่างเธอจะปกปิดตัวตนจากโลกภายนอก
ไม่ว่าจะเป็นการใช้นามแฝง ชื่อปลอม การสะกดนามสกุลที่ไม่เหมือนกันหลายๆ ครั้ง เวลาต้องไปทำธุรกรรมต่างๆ
(เช่น ตอนจ้างรถขนของ บริษัทขนของต้องการเบอร์โทรติดต่อเธอ พร้อมชื่อ เธอบอกว่า
ไม่ต้องติดต่อฉัน ถ้าจะติดต่อ เดี๋ยวฉันจะติดต่อไปเอง) การพูดสำเนียงที่แข็งและเกร็ง
การห้ามไม่ให้ใครในบ้านไปยุ่งกับของในห้องเธอ อันมีกล่องฟิล์มนับแสนม้วน
กองหนังสือพิมพ์เต็มห้อง (สิ่งแรกที่เธอขอเวลาไปทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กบ้านหลังใหม่ก็คือ
กุญแจล็อคห้อง!) รวมทั้งเรื่องที่เป็นประเด็นที่สุดก็ คือการปกปิดผลงานภาพถ่ายทั้งหมดของเธอไม่ให้ใครได้เห็น
ถ้าจำไม่ผิดมีฉากหนึ่งที่
จอน มาลูฟ บอกไว้ว่า “ไม่รู้ผมคิดถูกมั้ย ที่เอาชีวิตของคนที่เขาไม่ได้อยากเปิด
มาเปิดเผยให้คนอื่นได้รับรู้
แต่ผมคิดว่าคนทั่วโลกควรจะรู้จักเขาและผลงานภาพถ่ายของเขาที่ถ่ายเก็บเอาไว้ทั้งหมด”
ฉะนั้น
เมื่อมองๆ ไปแล้ว และยึดถือตรรกะ “สื่อมวลชน = การเปิดเผย การเผยแพร่”
ต้องบอกว่า วิเวียน ไมเออร์ ทำอะไรที่ค่อนข้างจะสวนทางกันกับวิถีชีวิตตัวเองที่ปกปิดตัวตนจากสังคม
แม้เธอจะเป็นแค่พี่เลี้ยงเด็ก และไม่ได้ประกอบอาชีพเป็นสื่อมวลชนจริงๆ ก็ตาม (เปรียบเป็นคนในยุคดิจิตอลคงประมาณมีกล้องถ่ายภาพแล้วเก็บไว้ดูคนเดียว
แต่ต่างกันตรงที่ผลงานภาพถ่ายของ วิเวียน ไมเออร์ อยู่ในระดับเยี่ยมกว่าช่างภาพมืออาชีพหลายๆ
คน)
ว่าด้วยเรื่องผลงานภาพถ่าย
ส่วนใหญ่ภาพของเธอจะถูกบันทึกจากมุมต่ำ จากการใช้กล้อง Rolleiflex อันมีลักษณะพิเศษที่เวลาจะถ่ายที แทบไม่ต้องยกขึ้นเล็งโดยนาบเข้ากับสายตา
เพราะตำแหน่งของวิวไฟน์เดอร์จะตั้งอยู่ส่วนบนของตัวกล้อง ฉะนั้นเวลาจะถ่ายใคร
คนที่ถูกบันทึกภาพเลยแทบจะไม่รู้สึกว่าตัวเองถูก (แอบ) ถ่าย เลย และเมื่อรวมกับตำแหน่งของกล้องที่เวลาสะพายอยู่ช่วงท้อง
ผลที่ได้คือภาพเป็นธรรมชาติ ไม่ผ่านการเก๊ก แลดูมีพลัง (ผมใช้ FujiFilm
X-E2 แทบอยากจะให้มีจอพับกันทันทีเลยฮะ)
ท้ายที่สุด
Finding
Vivian Maier ถ้าจะดูเพื่อเสพเอาไว้เป็นแรงบัลดาลใจในการถ่ายภาพ
คงอยู่ในระดับพอกล้อมแกล้ม แต่ถ้าจะดูเพื่อรู้ถึงวิถีชีวิตช่างภาพหญิงคนหนึ่ง ที่น่าสนใจในระดับซดเมรัยชั้นเยี่ยมไม่ได้หาดื่มกินกันง่ายๆ
คุณมาถูกทางแล้วครับกระผม
คะแนน 7/10
ปล.ปัจจุบันผลงานภาพถ่ายทั้งหมด ลิขสิทธิ์ตกเป็นของ
จอน มาลูฟ ในฐานะที่มาลูฟประมูลฟิล์มเหล่านั้นมาได้ (เพราะไมเออร์ เธอไม่มีทายาท) ซึ่งมาลูฟก็ตีพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือรวมภาพถ่ายและเอกสาร (monograph)
เกี่ยวกับไมเออร์ออกมาสองเล่ม คือ “Vivian Maier: Self
Portraits” กับ “Vivian Maier: Street Photographer” รวมถึงจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ Howard Greenberg ที่เชี่ยวชาญทางการแสดงงานสกุลช่างนิวยอร์ก
ในปลายปี 2011 และถูกนำไปแสดงในนิทรรศการภาพถ่ายตามแกลลอรี่ต่างๆ
แล้วทั่วโลก ส่วนใครอยากชมผลงานภาพถ่ายของเธอคลิกเข้าไปดูได้ในลิ้งค์นี้กันเลยฮะ http://www.vivianmaier.com/gallery/street-1/ (ในหมวด Portfolios ของเธอมีหลายแฟ้มให้เลือกดูเด้อ
ลิงค์นั้นแค่ยกตัวอย่างมาเฉยๆ)
ปล2.ปี ค.ศ.
ที่ฉาย ขออนุญาตยึดตาม www.imdb.com แม้ว่าหนังจะเข้าฉายในเมืองไทยในปี
ค.ศ. 2014 ก็ตาม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น