บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก ตุลาคม, 2013

Movie Review : Lost In Thailand (2012)

รูปภาพ
ถ้าประชากรชาวจีนไม่มาเที่ยวเชียงใหม่เยอะ บางที Lost In Thailand อาจจะเป็นแค่หนังจีนธรรมดาเรื่องนึงที่ไม่ได้มีสาระสำคัญอะไรกับคนไทย และคนเชียงใหม่ แม้หนังจะโกยรายได้ไปเยอะในแดนมังกรก็ตาม ว่ากันด้วยตัวหนัง นี่เป็นงาน Comedy ที่พูดถึงเรื่องราวของคนสองคนที่มีจุดหมายต่างกัน แต่ต้องมาใช้ชีวิตร่วมกันแบบจับผลัดจับผลู เพื่อออกเดินทางไปยังเป้าหมายที่วางไว้ซึ่งก็คือ เชียงใหม่  คนแรกคือ “ซู” ไปเชียงใหม่ เพื่อตามตัวเจ้านายให้เซ็นเอกสารทางธุรกิจตัวเอง ส่วนคนหลังคือ “หวัง” ที่มาเที่ยวเมืองไทยโดยเฉพาะ ซึ่งในระหว่างนั้น “ซู” ถูก “โบ” คู่แข่งทางธุรกิจ สะกดรอยตามมาตั้งแต่เมืองจีน เพื่อขัดขวางการเซ็นเอกสาร โดยที่เหลือต่อจากนั้น ก็เป็นการผจญภัยแบบรั่วๆ ของ “ซู” และ “หวัง” ในเชียงใหม่    ธรรมดาของหนังแนวนี้ ตัวละครหลักสองคนย่อมมีบุคลิกแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน คนนึงจริงจัง อีกคนตลกๆ ไม่เอาไหน และการใช้ชีวิตร่วมกันระหว่างทาง เป็นเรื่องทำความเข้าใจยากของทั้งสองฝ่าย แต่สุดท้ายตามสูตร ก็ต้องเคลียร์ปัญหาเพื่อทำความเข้าใจ ที่สำคัญทั้งสองมีปมปัญหาส่วนตัวของตัวเองที่ต้องจัดการให้สิ้นซาก (ซู

Movie Review : Prisoners (2013)

รูปภาพ
ดูจากชื่อหนังในเวอร์ชั่นภาษาไทย คงต้องบอกว่าหนังน่าจะมาในโทนแอคชั่น เฉือนเหลี่ยม เชือดคมกัน แต่เอาเข้าจริงหลังจากสับตีนเข้าไปดูในโรง ก็ต้องบอกว่ามันเป็นงานดราม่า /ทริลเลอร์ เรื่องราวการหายตัวไปของเด็กสาวสองคนในวันขอบคุณพระเจ้า ก่อนจะถูกสืบสวนตามหาจากนักสืบโลกิ (เจค จิลเลนฮาล) และอีกฟากหนึ่งเป็นเคลเลอร์ (ฮิว แจ็คแมน) หนึ่งในคุณพ่อที่ลูกสาวถูกลักพาตัวไปในวันนั้น (อีกคนเป็นลูกสาวเพื่อนบ้าน) ซึ่งวิธีการทั้งสองก็สวนทางกัน เพราะโลกิ นักสืบหนุ่มทำงานตามแบบฉบับอยู่ในกรอบกฎหมาย ส่วนเคลเลอร์ก็ไม่แยแสวิธีการอะไร ขอแค่ตอนนั้นตัวเองได้ลูกสาวกลับคืนมาก็พอ ที่เหลือจากนั้น หนังก็เดินเรื่องเข้าสู่โหมดสืบสวนหาตัวผู้ต้องสงสัยจากทั้งสองฝั่ง ซึ่งเมื่อมองจากพล็อตหนังแล้ว ก็ให้ชวนนึกสงสัยอยู่ว่าหนังจะเล่าออกมาในวิธีใด จากระยะเวลาสองชั่วโมงกว่า หนังค่อยๆ เปิดเผยรายละเอียดให้คนดูตามเก็บไปทีละจุดพร้อมๆ กัน ก่อนจะเอาข้อมูลทั้งหมดมาประกอบแล้วไขปมหาตัวคนร้าย โดยระหว่างรายทางก็จะมีผู้ต้องสงสัยหลายคนโผล่หน้าเข้ามาให้ขบคิด หลอกล่อ พลิกไปพลิกมา แต่สุดท้ายหนังก็ไม่ยากเกินกว่าคนดูจะเดาออกว่าเป็นใคร แถมห

Movie Review : The Texas Chainsaw Massacre - บางส่วนถึงสิงหาสับ...

รูปภาพ
ไม่แน่ใจว่าสิงหาสับมีกี่ภาค แต่เท่าที่รู้ดูไปแล้ว 5 ภาค คือ The Texas Chainsaw Massacre 1 ปี 1974, 1986, 2003, 2006 และ 2013 3D และเท่าที่ค้นเจอข้อมูล มันมี ภาค 3 ของปี 1990 และอีกภาคเป็นปี 1994 ฉะนั้น มันน่าจะมี 7 ภาค แบบต่อเนื่องกัน และไม่ต่อเนื่อง ซึ่งจากการประมวลผลก็พอจะสรุปได้ว่า.... สนุกสุด น่าจะเป็นปี 2006 ทุกอย่างดูลงตัว แต่ภาคนี้ก็ยังแพ้เรื่องของบทหนังในปี 2013 ที่ดูเป็นเรื่องเป็นราว มีเหตุมีผลมากขึ้น จนอดสงสารเลทเธอร์เฟซไม่ได้ ส่วนภาคอื่น เผลอเข้ามาสุ่มสี่สุ่มห้า กูจับเลื่อยไฟฟ้าหั่นหมด (บางคนยกให้ภาคแรก ปี 1974 ดีสุด อาจจะเพราะตอนนั้นมันคือปฐมบทของหนัง ซึ่งถ้าผมดูภาคนั้นเป็นภาคแรก ของสิงหาสับ บางทีอาจจะชอบกว่าปี 2006 ก็ได้ ?) ส่วนภาคปฐมบทปี 1974 ฉากฆาตกรรมไม่โหด น่ากลัวสุุดคงตอนกล้องจับภาพไปที่ดวงตาของนางเอก ชนิดเต็มจอตอนมันกรี๊ดหลังถูกมัดไส้บนเก้าอี้ มีเสียงดนตรีหลอนๆ ปนมา แต่ในระหว่างหลอนๆ ก็ยังแอบตลกไอ้ปู่หน้าแก่ (นั่งอยู่กลางตรงในภาพ) ส่วนการฆ่าไม่มีที่มาที่ไป แต่ที่หงุดหงิดใจที่สุด คือหนังจบแบบดื้อๆ เหมือนเรากำลังดูหนังแล้ว มีคนมาถอดปลั๊กท