Movie Review : ATM (2012)


แม้จะรู้อยู่เต็มอก ว่าหนังเกรดบีแนวสยองขวัญ ส่วนใหญ่มักเข้าขั้นน่าผิดหวัง เสียดายเวลาดู หรือแม้กระทั่งค่าไฟ แต่ด้วยสันดานแห่งการเสพหนังประเภทนี้ แรงจูงใจมันมักจะฉุดไว้ไม่อยู่

พล็อตหนังไม่มีอะไรซับซ้อนเยอแยะ เพื่อนกัน 3 คนกำลังจะกลับบ้านกลางดึก จอดรถแวะกดเงินตู้เอทีเอ็ม จากนั้นพอจะออกมา ก็เจอฆาตกรโรคจิตรอดักอยู่ด้านหน้า ที่เหลือก็คือการหาทางเอาตัวเองรอด จากตู้เอทีเอ็มนั้นของตัวละครทั้งสาม

แน่นอน หนังสยองขวัญตัวละครย่อมมีความงี่เง่าติดตัวมาแต่กำเนิด มักทำอะไรไม่มีเหตุผล พอๆกับพล็อตหนัง เช่น ไปกดตังค์แต่ดันจอดรถไว้ไกลตู้มาก ทั้งๆที่มึงขับไปใกล้ๆ ตู้ก็ยังได้, การเข้าใจผิด ฆ่าไอ้โรคจิตผิดตัวตอนเข้ามาในตู้ เพราะมันแต่งตัวคล้ายกัน (นี่ก็เหมือนกันที่ไม่รู้ว่า ไปไงมาไง อยู่ดีๆ ก็มากดตังค์ ตี 3 แถมอาจจะจอดรถไว้ไกลแบบไม่มีเหตุผล หรือว่ามันเดินมาเอาแต่ไกลว่ะ)

แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่น่าปวดตับสุดๆคือ การหาเหตุผลไม่เจอของฆาตกรว่า "มึงทำไปทำไมครับ" แรกๆ เหมือนหนังจะปูทางมาอย่างดีว่าเรื่องนรกแตกแบบนี้ ที่เกิดขึ้นกับตัวละครหลักสามตัวที่อยู่ในตู้ มันน่าจะมีสาเหตุแห่งการเหม็นขี้หน้า หรือว่าขัดผลประโยชน์กันรึเปล่า (สามตัวที่ติดในตู้ทำงานเกี่ยวกับธุรกรรมการเงิน) แต่สุดท้ายก็เอามาหลอกๆ เพื่อสร้างสีสัน และให้คนดูคิดต่อไปว่า ฆาตกรมันต้องการอะไรกันแน่ ในท้ายที่สุด

ดูจนจบ ก็ไม่พบเจอเหตุผลแห่งการฆ่าคน และก็ยังสงสัยว่ามึงทำไปทำไม ที่แน่ๆ ฆาตกรไม่ได้โง่งี่เง่า แต่ทำการวางแผนมาอย่างดิบดีที่จะฆ่าคนในตู้ (สังเกตจากตอนต้นเรื่องและท้ายเรื่อง เห็นมันนั่งวาดแบบวางแผน) หรือสิ่งที่หนังต้องการจะบอก คือความฉลาดเป็นกรดของฆาตกรโรคจิตว่า สามารถฆ่าคนได้อย่างสุดยอด โดยไม่ถูกจับกุม แถมยังหาเหลี่ยมมุมกล้องวงจรปิดได้อย่างหมดจด จนทำให้ตำรวจไม่สามารถ เห็นภาพจากกล้องวงจรปิด กับพฤติกรรมการฆ่าคนของมันได้

อนึ่ง บางทีฆาตกรอาจไม่ได้ฉลาด เพียงแต่คุณตำรวจอาจจะโง่ในการสืบตัวหาคนร้าย

และถ้าเกิดผู้กำกับนึกจะสร้างภาคต่อ เพราะตอนจบเหมือนว่าหนังจะทิ้งปมตัวร้ายไว้ คนดูงงต่อไปในพฤติกรรมของมัน ก็เชิญทำหนังต่อของท่านให้มันสมใจอยากเถอะครับ

ว่าแต่ว่ามันจะมีชาวบ้านคนไหนรอดูมั้ยล่ะ?

คะแนน 3.5/10

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ขนมเด็กโบราณในความทรงจำ

Movie Review : อวสานโลกสวย (2016)

Movie Review : 12 Angry Men (1957) อย่าด่วนตัดสินใคร!